จากเดิมเราอาจเคยได้ยินกาแฟขี้ชะมด หรือ Kopi Luwak จากประเทศอินโดนีเซียว่าเป็นกาแฟที่ราคาค่อนข้างสูงแล้ว โดยมีราคาต่อกิโลกรัมสูงถึง 600 ดอลล่าสหรัฐ หรือ 17,000 บาท กลับพบว่าที่มูลนิธิช้างสามเหลี่ยมทองคำ จ.เชียงราย ภาคเหนือสุดของประเทศไทย นั้นได้มีกระบวนการคัดเลือกผลผลิตจากเมล็ดกาแฟสายพันธุ์อาราบิก้าที่ดีที่สุดให้ช้างกินเข้าไป เพื่อผ่านกระบวนการย่อยเอนไซม์ เอนไซม์ในกระบวนการย่อยอาหารของช้างมีคุณสมบัติช่วยย่อยโปรตีนบางส่วนในเมล็ดกาแฟ ทำให้เมล็ดกาแฟที่ถูกย่อยผ่านกระเพาะอาหารของช้างออกมานั้นมีความขมจากโปรตีนที่ลดน้อยลง เมื่อช้างถ่ายมูลของมาเป็นก้อนแล้ว จึงให้ควาญช้างตามเก็บเมล็ดกาแฟที่ย่อยไม่หมดในมูลช้างออกมาล้างทำความสะอาดและตากแดด รวมทั้งผ่านขั้นตอนการผลิตจนคั่วออกมาเป็นเมล็ดกาแฟสำหรับให้คนบริโภคได้ โดยต้องให้ช้างกินเมล็ดกาแฟสดประมาณ 33 กิโลกรัม กว่าที่จะได้ออกมาเป็นกาแฟที่เราบริโภคได้แค่ 1 กิโลกรัม จึงทำให้กาแฟชนิดนี้มีราคาค่อนข้างสูง รวมทั้งเป็นกาแฟที่มีเสน่ห์พิเศษซึ่งแตกต่างจากกาแฟที่วางขายอยู่ท้องตลาดทั่วไป กาแฟที่ได้ออกมามีรสชาดขมลดน้อยลงและมีเอกลักษ์เฉพาะตัว รสสัมผัสที่นุ่มละมุนลิ้น ได้เป็นกาแฟขี้ช้าง หรือ Black Ivory Coffee ซึ่งทำลายสถิติกาแฟที่แพงที่สุดในโลกด้วยราคาราคาต่อกิโลกรัม 1,100 ดอลล่าสหรัฐ หรือ 34,000 บาทเลยทีเดียว
กาแฟขี้ช้างในชื่อของ กาแฟแบล็คไอวอรี่ (Black Ivory Coffee) นี้ ในหนึ่งปีผลิตออกมาได้เพียง 200 กิโลกรัมเท่านั้น ซึ่งเพียงพอสำหรับรองรับท่านที่เป็นคอกาแฟขนาดแท้ในเมืองไทย โดยรายได้จำนวน 8 เปอร์เซ็นต์จากยอดขายทั้งหมดนั้น ได้มอบคืนกลับให้แก่มูลนิธิช้างสามเหลี่ยมทองคำ โดยเงินจำนวนนี้นำเข้าสู่มูลนิธิโดยตรงซึ่งจะเป็นประโยชน์แก่ตัวช้างเอง เพื่อที่จะเป็นค่าดูแลรักษาและค่าอาหารชนิดอื่น ๆ ของช้าง
Mr.Blake Dinkin ผู้สร้างกาแฟขี้ช้าง หรือ Black Ivory Coffee
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น