กินอย่างไรเมื่อเป็นโรคเกาต์

ทุกวันนี้คนจำนวนมากจึงหันมาสนใจและใส่ใจเรื่องอาหารการกินมากขึ้น เพราะรู้ว่ากินไม่ดีมีโอกาสเกิดโรคต่างๆ ได้ง่ายขึ้น แต่ถ้ากินดีกินให้เหมาะสม นอกจากห่างไกลโรคแล้ว หลายโรคยังทุเลาเบาบางได้เช่นกัน แนวปฏิบัติตนในการกินเมื่อเป็นโรคเกาต์ดังนี้

1.ควรงดอาหารที่มีพิวรีนสูงอย่างเด็ดขาด ซึ่งได้แก่ เครื่องในสัตว์ เนื้อสัตว์ปีก ปลาซาร์ดีน ไข่ปลา น้ำต้มกระดูก น้ำสกัดเนื้อ ผักยอดอ่อน เป็นต้น การกินอาหารที่มีพิวรีนสูงลดลงทำให้ร่างกายได้รับกรดยูริกลดลง


2.ควรกินอาหารประเภทข้าว-แป้งให้มากพอ (โดยทั่วไปวันละ 8-12 ทัพพี) เพื่อให้ร่างกายได้รับพลังงานเพียงพอในการทำกิจกรรมต่างๆ โดยไม่ต้องเผาผลาญโปรตีนที่มีอยู่ในกล้ามเนื้อเพื่อใช้เป็นพลังงาน


3.ไม่ควรกินอาหารจำพวกเนื้อสัตว์มากเกินไป ควรกินพอประมาณ ละเว้นอาหารประเภทบุฟเฟต์หมูกระทะ


4.ดื่มน้ำมากๆ อย่างน้อยวันละ 2-3 ลิตร ช่วยป้องกันไม่ให้เกิดการสะสมของผลึกกรดยูริก ป้องกันโรคนิ่วในไตได้


5.หมั่นกินผักและผลไม้ให้มากขึ้น ช่วยให้ปัสสาวะมีภาวะเป็นด่าง ช่วยขับกรดยูริกออกจากร่างกายดีขึ้น อย่างไรก็ตาม คนเป็นโรคเกาต์ควรหลีกเลี่ยงไม่กินผักยอดอ่อนจำพวก กระถิน ชะอม สะเดา เพราะผักเหล่านี้มีสารพิวรีนสูง


6.หลีกเลี่ยงอาหารที่มีน้ำตาลและไขมันมาก ร่วมกับการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เป็นวิธีควบคุมน้ำหนักที่ถูกต้องและเหมาะสม เพราะอาหารเหล่านี้นอกจากจะให้พลังงานสูงแล้ว ยังทำให้ระดับไตรกลีเซอไรด์ในเลือดสูงได้ ซึ่งจะไปขัดขวางการขับกรดยูริกออกจากร่างกายเช่นกัน


7.งดหรือลดการดื่มเหล้า เบียร์ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ลง เพราะเมื่อร่างกายเผาผลาญแอลกอฮอล์ จะทำให้มีการเพิ่มสารแล็กเทสในเลือด สารนี้จะไปยับยั้งการขับกรดยูริกออกจากไต

(เครดิตภาพ : travelnan, chiangmainews)

′ดีท็อกซ์′ง่ายๆ ด้วย′ผลไม้ใกล้ตัว

เป็นเวลากว่าพันปีแล้วที่มนุษย์ได้คิดค้นการ"ดีท็อกซ์" เพื่อลดสารพิษในร่างกายและเติมอาหารให้ร่างกายแข็งแรง ทั้งยังช่วยป้องกันเชื้อโรค แถมยังเป็นตัวช่วยลดความอ้วนได้เป็นอย่างดี ซึ่งเว็บไซต์ Eat Local Grown ได้ยกเอาประโยชน์จากผักผลไม้ใกล้ตัวที่ช่วยดีท็อกซ์ร่างกายมาเป็นตัวอย่างให้คุณสาวๆ ได้เลือกสรรกันง่ายๆ อาทิ


"แอปเปิล" เพราะเต็มไปด้วยสารอาหารชนิดต่างๆ ทั้งไฟเบอร์ วิตามิน และยังมีสารอาหารช่วยกระตุ้นกระบวนการขับสารพิษจากตับ ช่วยชะลอวัยได้ด้วย


"อัลมอนด์" ที่ได้ชื่อว่าเป็นแหล่งวิตามินอีที่ดีที่สุด ในหนึ่งออนซ์จะมีอัลฟ่า โทโคฟีโรล วิตามินอี ในระดับที่เหมาะกับร่างกาย ทั้งยังช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดและล้างสารเจือปนจากลำไส้ได้
"ใบโหระพา" ด้วยมีสารแอนตี้แบคทีเรียและแอนตี้ออกซิแดนท์ ช่วยปกป้องตับ และมีส่วนผสมของสารเทอพีนอยด์ ที่ช่วยขจัดสารพิษจากร่างกาย


"บลูเบอรี่" การทานบลูเบอรี่ 300 กรัม จะช่วยปกป้องดีเอ็นเอของร่างกายไม่ให้ถูกทำลาย ทั้งยังช่วยป้องกันแบคทีเรียในทางเดินปัสสาวะ และป้องกันการติดเชื้อได้ด้วย


"กระเทียม" ผักยอดนิยมของผู้ชื่นชอบการดีท็อกซ์ เหตุเพราะว่ากระเทียมช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันร่างกายที่จะช่วยดูแลตับของคุณ ที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าได้ผลดีกว่ายาปฏิชีวนะด้วยซ้ำ


"ผลไม้ตระกูลส้ม" เพราะอุดมไปด้วยไฟเบอร์ คอลลาเจน วิตามินต่างๆ ที่ช่วยให้ขับถ่ายได้ดี ทั้งยังช่วยล้างสารพิษในร่างกายและต้านอนุมูลอิสระ ยับยั้งสัญญาณของโรคมะเร็งบางชนิด ข้อแนะนำคือควรทานส้มเป็นลูกมากกว่าน้ำส้ม เพราะจะช่วยให้ได้รับกากใยมากกว่านั่นเอง


"มะนาว" การดื่มน้ำมะนาวเป็นอย่างแรกหลังจากตื่นนอนจะช่วยบาลานซ์กรดในร่างกาย และมีส่วนผสมช่วยการขับถ่ายในตับ นอกจากนี้น้ำมะนาว 1 แก้วยังอุดมด้วยสารที่ป้องกันมะเร็งถึง 20 ชนิดอีกด้วย


"ตะไคร้" สมุนไพรอันโด่งดังจากประเทศไทยที่ช่วยล้างสารพิษในอวัยวะต่างๆ ในคราเดียว ทั้งตับ ช่วยฟอกไต และกระเพาะปัสสาวะ การนำมาปรุงอาหารหรือเป็นส่วนผสมในชาจะช่วยให้ระบบล้างสารพิษในร่างกายเราดีขึ้นอย่างแน่นอน

สูตรเด็ด! ชาเย็น แบบใส่ขวด ฉบับชาชัก ชาใต้ ไม่ต้องไปเรียนชง

ที่มา pantip
สวัสดีค่ะ
วันนี้ อลิซ ยิ้ม นำสูตรชาเย็น แบบบรรจุในขวด 1.5 ลิตร มาแชร์ให้เพื่อนๆทุกคนที่สนใจ เรียกว่าเป็นการเปิดเผยสูตรแบบครบวงจร
สูตรนี้ปกติ ทางร้านของอลิซเองได้ใช้ชงขายหน้าร้าน // ไม่ขอบอกนะจ๊ะ ว่าเปิดร้านอยู่ตรงไหน
และมีการชงบรรจุขวด 1.5 ลิตร แล้วก็ขายส่งกระจายไปยังร้านต่างๆ ให้คนรับไปขายต่อ ก็มี

ยอมรับเลย ว่าชาเย็นเป็นเครื่องดื่มยอดฮิต ทั้งชาวไทยและต่างชาติ มาแต่ไหนแต่ไร
ด้วยความกลมกล่อม หอม หวาน มัน ยิ่งรสชาติเข้มข้นด้วยแล้ว ผู้ได้ลิ้มลองครั้งแรกก็จะติดใจในรสชาติ
อยากให้ทุกคนได้ลองชิม สูตรนี้ดูนะคะ รับรองไม่ผิดหวัง

วัตถุดิบหลัก
-ผงชา สำหรับทำชาเย็น ในสูตรนี้ อลิซใช้ ชาซีลอนสูตรพิเศษ ชา555 ชาหอม ผสมกัน
( วิธีการผสมชานี้ มีกูรูสอนตอนที่ไปเรียนคอร์สชา )
-นมข้นหวานและนมข้นจืด ในสูตรนี้ ใช้ของ Falcon
-ครีมเทียม
-น้ำตาล,น้ำเชื่อม

พร้อมแล้วมาเริ่มกันเลยดีกว่า

เริ่มที่
-ตักชาซีลอน 10 ช้อนชา -ชา555 20 ช้อนชา -ชาหอม 10 ช้อนชา
ชาทั้ง 3 อย่าง อลิซใช้ของตราช้างทองค่ะ คิดว่าผสมกันแล้วรสชาติลงตัว ได้ทั้งสีและกลิ่น
เพื่อนคนไหนจะลองนำยี่ห้ออื่น มาผสมด้วยก็ไม่ว่ากันเนอะ แต่รสชาติผิดเพี้ยนไปอย่างไร อลิซไม่รับรองนะ
ก็ลองผสมกันดู ปกติใช้หลายยี่ห้อ ส่วนตัวคิดว่าอันนี้โอเคสุด (เป็นคนติดชามาแต่ไหนแต่ไร ถ้าว่างๆจะนำมารีวิวให้ครบทั้งหมด)

จากนั้นนำชาทั้ง 3 อย่าง ผสมและคลุกเข้าด้วยกัน

ลักษณะผงชาที่ได้ ดูกันชัดๆเลยค่ะ จะมีทั้งลักษณะที่เป็ยผงละเอียด และก็ก้านใบ ที่หยาบๆ

จากนั้นตวงน้ำ 1,500 มิลลิลิตร (1.5ลิตร) ซึ่งเท่ากับน้ำตราสิงห์หรือน้ำตราเนสเล่ 1 ขวด พอดี ตวงง่ายๆเลย
แล้วนำไปต้มให้น้ำเดือด นำผงชาที่เตรียมไว้เทใส่ถุงกรองชา

แล้วเทน้ำร้อนผ่านถุงกรองชาที่มีผงชาอยู่
ถุงกรองชา วางไว้ในกระบอกสแตนเลส ซึ่งมีไว้สำหรับการชงชา
ถ้าใครไม่มีกระบอกสแตนเลสหรือมือใหม่หัดชง ก็ใช้พวกหม้อที่ใช้ตามบ้าน แทนก็ได้นะ เป็นการประยุกต์ไปอีกแบบ



เทคนิคสำคัญ* เทชาสลับไป สลับมา ให้ครบประมาณ 12 รอบ ให้ผงชาในถุงกรองชุ่มฉ่ำ
เวลาเทก็ต้องชักถุงชาขึ้นมา (ถือถุงชาให้สูงขึ้น เพื่อให้ผงชาได้สัมผัสกับอากาศด้วย ) กลิ่นชาและรสชาติชาจะออกมาได้ดี

เมื่อเทชาสลับไป สลับมาครบ 12 รอบแล้ว จึงแช่ชาทิ้งไว้ประมาณ 5 นาที แล้วจึงยกถุงกรองชาออก
บีบน้ำชาที่เกาะอยู่ในถุงกรองชา คั้นน้ำออกมาให้เกลี้ยง

นำน้ำชาที่ได้ มาเติมครีมเทียม 20 ช้อนชา

เติมนมข้นหวาน 1 กระป๋องครึ่ง และนมข้นจืดเพิ่มความมัน 20 ช้อนชา หรือใครจะใส่นมข้นจืดมากกว่านี้ก็ไม่เป็นไร แล้วแต่ความชอบ
จากนั้นใส่น้ำเชื่อม ของอลิซใช้น้ำเชื่อมสำเร็จรูป ตรา มิตรผล ใส่ 25 ช้อนชา
หรือถ้าใครมีขวดปั๊ม ก็ใช้ขวดปั๊ม ปั๊มน้ำเชื่อม 10 ปั๊ม

คนส่วนผสมให้เข้ากันดี จากนั้นจัดการ "ชิม" อมยิ้ม05 ติดใจแล้วมาบอก อลิซบ้างนะคะ

***สำคัญ*** ตั้งพักไว้ รอให้เย็น แล้วจึงเทใส่ขวด จะได้ชาเย็นพร้อมขาย ประมาณ 1.3 ลิตร

ตักน้ำแข็งใส่แก้วให้พร้อม เทชาเย็นลงไป รับรองถูกใจ


เรียบร้อยค่ะ แค่นี้ก็ได้ชาเย็นบรรจุใส่ขวด พร้อมเทขาย

***แนวทางสร้างรายได้ ***
-ชงชาเย็นตามสูตรข้างต้น แล้วเทเก็บไว้ในขวดอย่างดี เช่น

แล้วแช่ไว้ในลังโฟม สามารถวางขายได้ตามงานเทศกาล งานโรงเรียน แหล่งชุมชน หน้าโรงเรียน สร้างรายได้พิเศษได้

-สำหรับร้านอาหารต่างๆ สามารถชงชาตามสูตรข้างต้น แช่เก็บไว้ในตู้เย็นได้เลย เวลามีลูกค้าสั่งก็สามารถเทชาเย็นเสริฟได้ทันที
เร็วและประหยัดเวลา แถมลูกค้ายังได้ดื่มชาเย็นที่รสชาติถูกปาก คู่กับอาหารด้วย หัวเราะ

-สามารถนำสูตรนี้ไปเทใส่ขวดพลาสติกเล็ก หรือขวดแก้วเล็กๆ พร้อมไปฝากขายตามร้านขายของชำต่างๆได้

ไว้รอบหน้าจะมาแชร์สูตรชาเขียว กาแฟ โอเลี้ยง และเมนูอื่นๆ นะคะ
ชงไว้แต่ไม่ค่อยได้ถ่ายรูปเก็บไว้เลย

เยี่ยม หมายเหตุ** สูตรข้างต้น ต้นทุนต่ำจริงๆนะคะ คืนกำไรได้เร็วมากด้วย สำหรับใครที่จะทำขายจริงๆ
การคำนวณต้นทุน ว่างๆ จะมาคำนวณให้ดูนะคะ

ประโยนช์ของ วาฃาบิ

วาซาบิ แท้นั้น เป็นพืชตระกูลเดียวกับโสม มีลักษณะใบคล้ายกับดอกของต้นฮอลิฮอด ความสูงของต้นสูงแค่เข่า ส่วนโคนลำต้นมีลักษณะเป็นหัวเหมือนหัวไช้เท้า มีสีเขียวอ่อนๆ นิยมนำมาใช้เป็นเครื่องปรุงหรือทำอาหาร เมื่อนำมาบดจะมีกลิ่นที่ฉุนรุนแรง เวลารับประทานช่วงแรกๆ จะให้ความรู้สึกแสบร้อนขึ้นจมูก ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นความกลมกล่อม ซึ่งเกิดจากรสหวานและขมผสมกันและให้ความเผ็ดเล็กน้อย ซึ่งประโยชน์ของวาซาบินั้นสามารถช่วยกระตุ้นต่อมน้ำลายเพื่อใช้ในการย่อยอาหารได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้
วาซาบิ ยังมีส่วนช่วยฆ่าเชื้อโรค และสามารถต่อต้านการติดเชื้อแบคทีเรีย และเชื้อราบางชนิด มีฤทธิ์ต่อต้านสารก่อมะเร็ง โดยเฉพาะมะเร็ง ในกระเพาะอาหาร ป้องกันเส้นเลือดอุดตัน ป้องกันฟันผุ และยังช่วยกระตุ้นการสร้างภูมิคุ้มกันในการกำจัดเซลล์ที่ เริ่มผิดปกติอีกด้วย

เมนูแนะนำ ไก่ต้มขมิ้นใส่ใบกะเพรา กินแล้วสุขภาพดีเพราะมีสมุนไพรเพียบ

ส่วนผสม
ไก่บ้านหั่นชิ้น 500 กรัม
ตะไคร้หั่นแฉลบ 3 ต้น
ข่าหั่นแว่น 5 แว่น
ใบมะกรูดฉีก 3 ใบ
ส้มแขก 70 กรัม
ใบกะเพรา 1 ถ้วยตวง
หอมแดง 5 หัว
ขมิ้นบุบพอแตก 30 กรัม
เกลือป่นหยาบ 1 1/2 ช้อนชา
น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำเปล่า 5 ถ้วยตวง

วิธีทำ
1. ต้มน้ำเปล่าพอเดือด ใส่ไก่บ้าน ตะไคร้ ข่า ใบมะกรูด ส้มแขก หอมแดง และขมิ้น พอเดือด
2. ปรุงรสด้วยเกลือป่น น้ำปลา คนพอเข้ากัน เดือดอีกครั้ง ใส่ใบกะเพรา เสร็จ.. 

สาวกเบค่อนห้ามพลาด...Bacon Sushi Rolls ที่ไม่ได้ยากอย่างที่คิด

ถ้าเสร็จหน้าตาประมาณนี้น่าทานไหมล่ะ..งั้นมาเริ่มกันเลย

เริ่มด้วยการวางเบคอนไว้บนที่ม้วนซูชิ

เตรียมหมูบดปรุงรสให้เรียบร้อยคลุดเคล้าให้เข้ากัน

นำหมูบดมาวางเป็นแผ่นบางๆบนเบค่อน

นำแท่งชีรสใส่ตรงกลางโรลล์

นำไปอบราว 25นาทีด้วยความร้อนพอเหมาะ

ระหว่างอบก็ทาซอสบาร์บีคิวไปด้วย

หลังจากอบเสร็จก็นำมาคลุกกับนาโช่หรือหัวหอมทอดก็ได้

หั่นเลย

จัดใส่จานให้สวยงาน แล้วเสิร์ฟพร้อมซอสบาร์บีคิว

หรือจะดู VDO วิธีทำก็มีนะ

เมนูง่ายๆ แค่ 3 นาที จากมาม่า กลายเป็นอาหารอิตาเลี่ยนสูดหรู