วันอาทิตย์ที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2558

เมี่ยงปลาทับทิมเผาเกลือห่อทานพร้อมผักสดๆ สูตรนี้แบบใช้ไมโครเวฟเหมาะสำหรับชาวหอ


เมี่ยงปลาทับทิมเผาเกลือ ห่อทานพร้อมผักสดๆ ไม่ต้องทานข้าวเลย รู้สึกดีต่อสุขภาพมากๆ และที่สำคัญทำง่ายมากๆด้วย มามะมาดูสูตรกันจ้า
วัตถุดิบ
1 ปลาทับทิม ไม่ต้องขอดเกร็ดนะคะ แค่ให้แม่ค้าปลาช่วยควักไส้ออกก็พอ
2 เกลือ
3 แป้งสาลีอเนกประสงค์ ปริมาณซัก 15% ของเกลือค่ะ เพื่อช่วยให้เกลือติดหนังปลาเป็นแผ่นๆสวยงาม
4 ข่าหั่นแว่น ตะไคร้หั่นท่อน ใบมะกรูดฉีก
5 น้ำจิ้มซีฟู้ด (วิธีทำน้ำจิ้มซีฟู้ด หั่นพริกจินดาสีแดงหรือถ้าชอบสีเขียวก็ใช้พริกเขียวได้ค่ะ เพิ่มใบโหระพาลงไปเล็กน้อย สีจะได้เขียวสวย แต่ข้อเสียคือจะเก็บได้ไม่นานสู้น้ำจิ้มซีฟู้ดสีแดง ตามด้วยกระเทียม รากผักชีพอหยาบๆ เติมน้ำลงไปเล็กน้อยให้พอปั่นได้ ปั่นจนทุกอย่างละเอียด เทลงในชาม ปรุงรสชาติด้วยน้ำปลา น้ำเชื่อม มะนาว ชิมแล้วปรับจนได้รสที่ชอบ)
6 ผักสดต่างๆ อาทิ ผักกาดหอม ผักชีฝรั่ง โหระพา สะระแหน่



วิธีทำ
1 นำตะไคร้หั่นท่อนเสียบเข้าไปที่ปากปลา พยายามยัดเข้าไปให้ลึกที่สุดค่ะ จากนั้นก็นำข่าหั่นแว่น ตะไคร้หั่นท่อน ใบมะกรูดฉีกยัดเข้าไปที่ท้องปลาให้มากที่สุด เพียงเท่านี้ก็ไม่เหม็นคาวแล้วค่ะ ^ ^



















2 เทเกลือลงในชามผสมซักใบ ตามด้วยแป้งสาลีอเนกประสงค์ พรมน้ำเล็กน้อย เกลือจะได้ติดหนังปลาค่ะ จากนั้นก็ทาเกลือที่ตัวปลาทั้ง2ด้าน

3 นำปลาทับทิมไปเข้าเตาอบ ชิ้งใช้ไฟประมาณ 170 องศาด้านละ 15นาทีค่ะ หรือจนปลาสุก ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความใหญ่ของปลาด้วย


4 เวลาเสิร์ฟ ใช้มีดกรีดด้านข้างตัวปลาเพื่อเปิดหนังปลาขึ้น ทานคู่กับน้ำจิ้มซีฟู้ดและผักสดต่างๆ ขอให้สุขภาพดีกันถ้วนหน้าเลยจ้า



ที่มา fb Fashion on food (อาหาร) จาก ชิ้งจ้า 


มักกะโรนีปลาหมึก เมนูง่ายๆที่น่าลองทำดู












มักกะโรนีปลาหมึก เมนูง่ายๆที่น่าลองทำดู สูตรอาจจะแตกต่างนิดหน่อย เพร่ะใส่เนยลงไปด้วย เพื่อให้ได้กลิ่นหอมๆ แต่จะใส่เนยในขั้นตอนไหนต้องตามมาดู


วัตถุดิบ
1 เส้นมักกะโรนีต้มสุก
2 ปลาหมึกหั่นชิ้นพอคำ
3 ไข่ไก่
4 กระเทียมสับ
5 หอมใหญ่หั่นเต๋าใหญ่
6 มะเขือเทศหั่นชิ้นพอคำ
7 ต้นหอมหั่นท่อน
8 น้ำมันหอย
9 ซอสปรุงรส
10 ซอสมะเขือเทศ
11 ซีอิ้วขาว
12 น้ำตาลทราย
13 พริกไทย
14 เนยเค็ม

วิธีทำ
1 ตั้งกระทะเจียวกระเทียมจนหอม  
2.ตอกไข่เลยพอไข่สุกก็หยีๆๆๆ

3.ใส่ปลาหมึกลงไปผัดจนสุก 

4.ใส่เส้นมักกะโรนีต้มสุกลงไป 

5.ปรุงรสด้วยน้ำมันหอย ซอสปรุงรส ซอสมะเขือเทศ ซีอิ้วขาว น้ำตาลทราย พริกไทย ชิมจนได้รสที่ชอบ พอรสชาติ

6.จากนั้นก็ใส่หอมใหญ่ ผัดจนเริ่มใส 

7.ใส่มะเขือเทศตามลงไปค่ะ สุดท้ายก็ใส่เนยลงไปเพิ่มความหอม เคล็ดลับความอร่อย อิอิ 

สุดท้ายเวลาเสิร์ฟให้โรยหน้าอีกทีด้วยต้นหอมหั่นท่อน

วันศุกร์ที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2558

ได้รู้สักที!!เผยสูตรเคล็ดลับความอร่อยของเฟรนซ์ฟรายส์แมคโดนัล

เผยสูตรเคล็ดลับความอร่อยของเฟรนซ์ฟรายส์แ.jpg



ได้รู้สักทีสูตรเฟรนซ์ฟรายส์แมคโดนัล ไม่ต้องรอให้ลด50%อีกต่อไป นายแกรนด์ อิมาฮาร่า ได้รับอนุญาตให้เข้าไปชมกระบวนการผลิตในโรงงานผลิตมันฝรั่งทอดของแมคโดนัลด์ ในรัฐไอดาโฮ เพื่อทำการพิสูจน์ว่าแท้จริงแล้วเฟรนช์ฟรายส์ของแมคโดนัลด์ทำจากมันฝรั่งจริงหรือไม่ ใช้ส่วนผสมอะไรกันแน่

เผยสูตรเคล็ดลับความอร่อยของเฟรนซ์ฟรายส์แ.jpg



นายแกรนด์ อิมาฮาร่า ได้เห็นกระบวนการผลิต เฟรนช์ฟรายส์แมคโดนัลด์ ทุกขั้นตอน เขายืนยันได้ว่าเฟรนช์ฟรายส์ของแมคโดนัลด์นั้นทำมาจากมันฝรั่งแท้แน่นอน แต่นอกจากส่วนประกอบอย่างแรก คือ มันฝรั่งคุณภาพดีที่เป็นหัวใจหลักแล้ว ยังมีส่วนผสมอื่นๆ อีก 13 ชนิด!! และส่วนผสมบางอย่างเป็นอะไรที่คุณคาดไม่ถึงเลยทีเดียว

เผยสูตรเคล็ดลับความอร่อยของเฟรนซ์ฟรายส์แ.jpg



ส่วนประกอบทั้งหมดของเฟรนช์ฟรายส์แมคโดนัลด์มีดังนี้

1.) มันฝรั่ง
2.) น้ำมันคาโนลา
3.) น้ำมันถั่วเหลือง
4.) น้ํามันถั่วเหลืองไฮโดรจีเนต
5.) กลิ่นเนื้อธรรมชาติ
6.) ธัญพืชไฮโดรไลซิส (Hydrolyzed Wheat)
7.) นมไฮโดรไลซิส (Hydrolyzed Mil)
8.) กรดซิตริก
9.) ไดเมทิลพอลิไซโลเซน (Dimethylpolysiloxane)
10.) น้ำตาลเด็กซ์โตรส (Dextrose) 
11.) โซเดียม แอซิค ไพไรฟอสเฟต (Sodium Acid Pyrophosphate)
12.) เกลือ
13.) เทอร์ไทอารี บิวทิล ไฮโดรควิโนน(Tertiary-Butylhydroquinone & TBHQ)

ไดเมทิลพอลิไซโลเซน ซึ่งมีการยืนยันว่าไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย ถูกใช้เพื่อไม่ให้เฟรนช์ฟรายส์ชุ่มน้ำมัน
น้ำตาลเด็กซ์โตรสธรรมชาติ  และ โซเดียม แอซิค ไพไรฟอสเฟต  จะถูกโปรยใส่มันฝรั่งเพื่อรักษาสีของมันฝรั่งให้ดูเหลืองอร่ามน่ารับประทานอยู่ตลอดเวลา ไม่เปลี่ยนสี

เทอร์ไทอารี บิวทิล ไฮโดรควิโนน ผสมอยู่ในน้ำมันที่ใช้ทอดเพื่อถนอมอาหาร

หลังจากที่มีการทอดในโรงงานแล้ว จะมีการเติมเกลือลงไปเล็กน้อยก่อนนำไปแช่แข็ง และส่งไปที่ร้านแมคโดนัลด์สาขาต่างๆ จากนั้นเฟรนช์ฟรายส์จะถูกนำมาทอดอีกครั้งก็พร้อมเสริ์ฟแล้ว

เผยสูตรเคล็ดลับความอร่อยของเฟรนซ์ฟรายส์แ.jpg



อย่างไรก็ตาม มีรายงานจากแมคโดนัลด์สหราชอาณาจักรระบุว่า ส่วนผสมข้างต้นนี้เป็นสูตรที่ใช้ในสหรัฐอเมริกา ไม่ใช่สูตรสำหรับสาขาที่สหราชอาณาจักรแต่อย่างใด

เผยสูตรเคล็ดลับความอร่อยของเฟรนซ์ฟรายส์แ.jpg



โฆษกของ McDonald’s UK ได้ให้ข้อมูลแก่สำนักข่าวอังกฤษว่า เฟรนช์ฟรายส์ของสหราชอาณาจักรนั้นใช้ส่วนผสมเพียงแค่ มันฝรั่ง, มันมันพืช (น้ำมันดอกทานตะวัน, น้ำมันผักกาดก้านขาว), น้ำตาลเด็กซ์โตรส, และเกลือ เท่านั้น โดยลูกค้าสามารถสั่งเฟรนช์ฟรายส์แบบไม่ใส่เกลือได้

นายแกรนด์ อิมาฮาร่า ได้ใช้วิศวกรรมผันกลับ (Reverse Engineering)
เพื่ออธิบายกระบวนการผลิตเฟรนช์ฟรายส์ โดยดูย้อนจากร้านสาขาแมคโดนัลด์กลับไปหาไร่มัน ทำให้เราได้เข้าใจง่ายขึ้น


นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเวลาเราซื้อเฟรนช์ฟรายส์มาทอดกินเอง รสชาติถึงไม่เหมือนที่ขายในร้านสักที


ขอบคุณที่มาจาก : Meekhao , metro.co.uk

วิธีทำหมูกรอบใน 50 นาที สูตรเร่งรัดสำหรับคนใจร้อน


 มีวิธีการทำหมูกรอบเด็ด ๆ มาฝากอีกแล้วจ้า ไม่ต้องต้ม ไม่ต้องทอด ไม่ต้องตาก ประหยัดเวลาทำง่าย ๆ สบายพุง !
           
          เอาใจคนชอบกินหมูกรอบเป็นชีวิตจิตใจด้วยวิธีทำหมูกรอบกินเองเด็ด ๆ อีกหนึ่งสูตร คราวนี้เป็นสูตรเร่งรัดที่ใช้เวลาในการทำ 50 นาทีเท่านั้น เป็นสูตรเด็ดและดีมาจาก คุณอ้อมใจ รัก_ประจำทาง สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ได้เฟ้นหาสูตรและวิธีการทำหมูกรอบมาหลายสูตรแล้วนำมาปรับเป็นสไตล์ของตัวเองจนได้สูตรหมูกรอบ 50 นาที ไม่ต้องต้ม ไม่ต้องทอด ไม่ต้องตาก ประหยัดเวลา และทำง่าย ๆ ด้วยหม้ออบลมร้อน 

          คำเตือน ! หมูกรอบสูตรนี้ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่กำลังลดน้ำหนัก และเป็นศัตรูของการออกกำลังกายทุกประเภทเอาล่ะ ! ใครพร้อมจะอ้วนไปด้วยกันแล้ว ตามมาดูส่วนผสมและวิธีทำหมูกรอบง่าย ๆ สูตรนี้กันเลยจ้า 



สิ่งที่ต้องเตรียม

หมูสามชั้น

น้ำส้มสายชู

น้ำปลา

เกลือป่น


อุปกรณ์

มีดแกะสลัก

หม้ออบลมร้อน

 
วิธีทำ



ล้างหมูสามชั้นให้สะอาด (ลองชั่งดูได้น้ำหนัก 1.1 ก.ก. ชิ้นนี้ทำออกมา พอสุกแล้วเบาไป 4 ขีดค่ะ) 



 ใช้มีดแกะสลักจิ้มลงบนเนื้อหมูให้ทั่วจนเป็นรูพรุน (ยิ่งพรุนยิ่งกรอบ)


บั้งเนื้อหมูให้เป็นริ้ว ๆ (หน้าแคบ หน้ากว้างตามชอบ ทั้งนี้เพื่อง่ายต่อการหั่นตอนสุก และกรอบไวขึ้นด้วยนะคะ)


นำเนื้อหมูที่บั้งแล้วไปแช่น้ำส้มสายชูผสมน้ำปลาค่ะ (ผสมกันเข้าไปเลยค่ะ ให้น้ำปลามากว่าน้ำส้มสายชูสักหน่อย) โดยแช่ด้านเนื้อแช่ประมาณ 5 นาที  ส่วนด้านหนังให้ชุบแล้วนำขึ้นทันที
           
          เคล็ดลับ : น้ำปลาจะทำให้เค็มเข้าเนื้อ ส่วนน้ำส้มสายชูจะช่วยให้สีเหลืองสวย


ใส่เนื้อหมูลงในหม้ออบลมร้อนโดยหงายด้านเนื้อขึ้น ใช้ไฟที่ 220 องศาเซลเซียส อบนานประมาณ 20 นาที จนด้านเนื้อสุก (ในรูปสุกแล้วนะ)


พอด้านเนื้อสุกแล้วให้หงายเอาด้านหนังขึ้น โรยเกลือลงไปเล็กน้อย (เอาเกลือโรยซะหน่อยตามที่เค้าบอกต่อกันมา เราโรยบ้างไม่โรยบ้างก็กรอบทุกรอบนะ  เราทำกับข้าวไม่เก่ง พอบั้งเป็นริ้ว เวลาโรยเกลือชอบคาตามร่อง ไม่สวยงาม แหะ ๆ ) จากนั้นอบต่ออีก 30 นาที (ในรูปอบไปราว 10 นาทีแล้วเพิ่งนึกได้ต้องถ่ายรูป)




พอครบเวลา นำออกจากหม้ออบ หั่นเป็นชิ้น ๆ จัดใส่จาน พร้อมเสิร์ฟ

          แผล่บ ๆ ขอกลืนน้ำลายแป๊บนะคะ หมูกรอบสูตรนนี้น่ากินสุด ๆ แถมไม่ต้องทอดให้น้ำมันเยิ้ม ๆ แบบนี้คุยกันยาว








วันพฤหัสบดีที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2558

ทอดไข่ไม่ให้ติดกระทะ แบบกระทะไม่ต้อง Non Stick


มาแก้ปัญหาในครัวง่ายๆ สำหรับคนที่มีกระทะที่ไม่ใช่เชฟล่อน หรือ Non Stick เวลาทอดไข่ หรือปลาทีไรมันมักจะติดกระทะตลอด มีวิธีแก้ไขง่ายๆ แบบไม่ต้องไปซื้อกระทะใหม่ แค่ไปซื้อกระดาษไขที่ใช้ทำอาหาร ราคาเบาๆ แค่นี้ก็แก้ปัญหาได้ ไม่ติดกระทะแถมไข่ก็สุกน่ากินอีกด้วย


รสชาตินุ่มๆทำเองได้ การทำ เบียร์ทอดกรอบ

670px-Cook-Deep-Fried-Beer-Step-1.jpg 
เบียร์ทอดกรอบ

ช่วงนี้อากาศกำลังเย็น กำลังดี การดื่มเบียร์ช่างเป็นอะไรที่เข้ากันกับบรรยากาศแบบนี้ 
แต่สำหรับบางคน การจิบเบียร์ การดื่มเบียร์อาจจะธรรมดาไป WikiHow เค้าเลยสรรหาเมนูนี้
เบียร์ทอดกรอบ  มาฝากพวกเรากัน

670px-Cook-Deep-Fried-Beer-Step-12.jpg 

โดยส่วนผสม ดังนี้
เบียร์ 1 กระป๋อง ยี่ห้อใดก็ได้แล้วแต่นะครับ
โกลเด้นไซรัป 6 ช้อนโต๊ะ
เนย 1 ก้อนเล็ก
ยีส 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำอุ่น 1 ถ้วย
แป้งสาลี 1/2 ถ้วย 
น้ำมันพืช 2 ถ้วย
ไข่ไก่ 1 ฟอง 

มาเริ่มลงมือทำกันเลย

1.นำเบียร์ และ โกลเด้นไซรัปเทลงในชาม และคนให้เข้ากัน
001.jpg 
2.นำเนย 1 ช้อนชา ละลายลงในหม้อ เทเบียร์ที่ผสมกับไซรัปไว้แล้วตามข้อ1 เทลงไป
670px-Cook-Deep-Fried-Beer-Step-3.jpg 
3.นำยีส ผสมน้ำอุ่น เข้าด้วยกัน คนให้ละลายเข้ากัน

4.นำแป้งสาลีที่เตรียมไว้ ใส่ลงในถ้วยน้ำยีส จากข้อ 3 เมื่อเทแป้งลงไป รอสักพักจะมีฟองขึ้นมา โรยเกลือ และเนย ประมาณ 1/3ถ้วย คนให้เข้ากัน
670px-Cook-Deep-Fried-Beer-Step-8Bullet1.jpg670px-Cook-Deep-Fried-Beer-Step-8Bullet2.jpg

5.นวดแป้งให้จับตัว ดังภาพ
670px-Cook-Deep-Fried-Beer-Step-8Bullet3.jpg 
6.นำแป้งมารีดเป็นแผ่นบางๆ ตามภาพ
670px-Cook-Deep-Fried-Beer-Step-9.jpg 
7.ตีไข่ให้เข้ากัน แล้วทาลงบนแผ่นแป้ง
670px-Cook-Deep-Fried-Beer-Step-9Bullet1.jpg

670px-Cook-Deep-Fried-Beer-Step-9Bullet2.jpg 
8.หั่นแป้งเป็นแผ่นๆ ตามภาพ 
670px-Cook-Deep-Fried-Beer-Step-10.jpg 
9.หยอดด้วยไซรัปพอประมาณตามภาพ 
670px-Cook-Deep-Fried-Beer-Step-11.jpg 
10.ทอดด้วยน้ำมัน ที่เตรียมไว้ จนให้เหลืองกรอบน่ากิน แต่ละแผ่นใช้เวลาทอดไม่นานครับ เพียงไม่กี่วินาทีก็นำขึ้นได้

670px-Cook-Deep-Fried-Beer-Intro.jpg

เป็นอันเสร็จทุกขั้นตอน รสชาติเป็นอย่างไร นำมาบอกกันด้วยนะครับ 
แต่จะเมารึเปล่าอันนี้ก็ไม่ทรายนะฮะ ฮ่าๆๆ